วันจันทร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2566

แป้งหิน

สินค้าแก้มนวล ชุด #เบ็ดเตล็ด 

#แป้งหิน กล่องละ 30 กรัม ราคา 30 บาท (ไม่รวมส่ง)

การใช้งานแบบแก้มนวล

นำแป้งหินใส่ภาชนะเล็กๆ เช่น พานเซรามิค ถ้วยรูปดอกบัว นำไปวางไว้บนแท่นบูชา หรือหน้าพระ เพื่อให้เป็นตัวรองรับน้ำปรุง เป็นการถวายสุคนธบูชาแด่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราสักการะ

การถวายน้ำปรุงแบบนี้ เราจัดให้สวยงามได้ตามชอบ และทดแทนการทาน้ำปรุงลงบนเทวรูป ซึ่งอาจกัดผิวทำให้เทวรูปชำรุดเสียหายได้

นอกจากใช้รองรับน้ำปรุงแล้ว จะใช้น้ำมันหอมแทนน้ำปรุงก็ได้เช่นกัน


ถวายเมื่อไหร่

การถวายน้ำปรุงด้วยการหยดบนแป้งหิน แนะนำให้หยดถวายสิ่งศักดิ์สิทธิ์เวลาเราจุดธูปเทียนบูชา และถวายของไหว้ (ขนมและดอกไม้)


แป้งหินคืออะไร

แป้งหิน เป็นแป้งธรรมชาติชนิดหนึ่ง แบบเดียวกับดินสอพอง มีลักษณะเป็นเม็ดสีขาว ขนาดประมาณปลายนิ้วก้อย ไม่มีกลิ่น

มีสรรพคุณในการใช้ประทินผิว ลดความมัน ช่วยทำให้รู้สึกเนื้อตัวลื่นสบายไม่มีเหงื่อ ให้ความเย็นแก่ร่างกาย ช่วยป้องกันการระคายเคืองลดสิวและผดผื่น

การนำมาใช้งานและสรรพคุณของแป้งหิน จะคล้ายกับแป้งดินสอพอง แต่แป้งหินเนื้อเนียนละเอียดกว่า จึงสามารถใช้แห้งในลักษณะแป้งฝุ่นได้ ส่วนดินสอพองนิยมผสมน้ำ

 

ดินสอพองนั้น เป็น “ดินขาว” ส่วนแป้งหินเป็นแร่ธาตุชนิดหนึ่ง เรียกว่า “แคลเซียมซัลเฟต” ชาวบ้านเรียกกันว่า “เกลือจืด”

เป็นผลพลอยได้จากการทำนาเกลือ โดยการเก็บผลึกเกลือจืดนำมาล้างให้สะอาดแล้วมาคั่วในกระทะ จากนั้นจึงละลายในน้ำจนตกตะกอน หยดในแม่พิมพ์แล้วนำไปตากแดด หรือทำให้แห้งด้วยตู้อบพลังงานแสงอาทิตย์

แป้งหินที่นำมาขาย จึงอยู่ในรูปของเม็ดแป้งทรงกรวยป้อมๆ สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง แบบพื้นๆ ทั่วไปก็คือ นำมาละลายกับน้ำหรือน้ำอบ แล้วใช้ทาผิว

ส่วนในงานเครื่องหอมไทย แป้งหินถูกนำมาใช้ในการทำน้ำอบ โดยใช้เป็นตัวเชื่อมประสานหัวน้ำหอม (ซึ่งเป็นเนื้อน้ำมัน) ให้เข้ากับน้ำสมุนไพรน้ำลอยดอกไม้ที่อบร่ำแล้ว

(อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่)

และนำมาทำปรุงกลิ่น ทำเป็นแป้งหอมชนิดต่างๆ เช่น แป้งร่ำ แป้งกระแจะจันทน์

 

ส่วนที่บางคนเรียกแป้งหินที่ไม่มีกลิ่นนี้ว่าแป้งร่ำ เพราะเข้าใจผิด ว่า เพียงนำเม็ดแป้งไปเติมน้ำหอม ก็เรียกว่า แป้งร่ำได้แล้ว

แท้จริงแล้วการทำแป้งร่ำนั้น ต้องทำหลายขั้นตอน ผสมสมุนไพรกับหัวน้ำหอม แล้วจึงนำไปหยอดเป็นเม็ดเล็กๆ ตากให้แห้ง แล้วจึงนำมาเก็บใส่ภาชนะปิดไว้ใช้งานต่อไป

แป้งร่ำที่ทำอย่างถูกต้องนี้ จะมีเนื้อเนียนละเอียด และมีกลิ่นหอมมาก


วิธีการหยอดแป้งร่ำแบบโบราณ สาธิตโดยอาจารย์พิม วิทยาลัยในวัง (หญิง)


--------------------------

สั่งซื้อ สอบถาม Line : mystics4u

ติดตามเพิ่มเติมได้ทางเพจเฟซบุค : https://www.facebook.com/gaemnual

 


วันจันทร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2565

บุหงาดอกไม้สด

 

คราวที่แล้ว เราพูดถึงบุหงารำไป ซึ่งเป็นบุหงาที่ได้จากดอกไม้แห้ง คราวนี้เราจะมาดูเรื่อง #บุหงาดอกไม้สด กันค่ะ

 

การทำบุหงาดอกไม้สดนั้นง่ายมากค่ะ วัตถุดิบที่สำคัญที่เราต้องหามาใช้ก็คือ ดอกไม้หอมต่างๆ ซึ่งคล้ายกับการทำบุหงารำไป

 

ดอกไม้หอมที่นิยมใช้กันก็ได้แก่ กุหลาบมอญ มะลิ กระดังงา จำปี พิกุล ชมนาด และอาจเพิ่มใบเตยด้วยก็ได้

 

กุหลาบมอญ สีชมพู กลิ่นหอมเย็น

ดอกไม้ที่นำมาใช้งาน ควรเป็นดอกไม้ที่ปลูกแบบอินทรีย์ ไม่มีสารฆ่าแมลง เพื่อความปลอดภัยของผู้สัมผัสค่ะ

 

วิธีการเตรียม

 

สำหรับดอกกุหลาบมอญ ให้นำมาปลิดเอาแต่กลีบดอก โดยใช้วิธีมือหนึ่งจับที่กระเปาะ อีกมือรวบกลีบกุหลาบแล้วค่อยๆ ดึงออก

 

มะลิ นิยมใช้แบบบานแล้ว เพราะจะมีกลิ่นหอมมาก

 

กระดังงา รวบกลีบ แล้วนำไปลนไฟจากเปลวเทียน เพื่อให้กระดังงาคลายกลิ่นหอมออกมา ก่อนปลิดเอาแต่กลีบ


จำปี ปลิดเอาแต่กลีบ

จำปี ปลิดเอาแต่กลีบ

พิกุล ใช้ทั้งดอก

ชมนาด เด็ดเป็นดอกๆ ออกจากช่อ

 

ชมนาด กลิ่นหอมคล้ายข้าวใหม่

ใบเตย หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ

 

นำของสดทั้งหมด มาใส่ในชามผสม แล้วพรมน้ำอบเล็กน้อย โรยพิมเสนบดละเอียด แล้วเคล้าให้เข้ากันอย่างเบามือ

 

นำบุหงาดอกไม้สด บรรจุลงในถุงผ้าโปร่ง แบบหลวมๆ อย่างอัดแน่นจนเกินไป เพราะจะทำให้กลีบช้ำ

 

การใช้ประโยชน์

 

ใช้เป็นของชำร่วยในงานต่างๆ

ใช้วางตามโต๊ะหรือมุมห้อง เพื่อให้ห้องมีกลิ่นหอมสดชื่น

 

ใช้ถวายพระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์

 

การวางถุงบุหงาดอกไม้สดนี้ ควรวางในที่ที่มีอากาศโปร่ง ถ่ายเทได้ดี เพื่อให้ดอกไม้ไม่เน่า หรือขี้นรา และสามารถทิ้งไว้จนแห้ง หากดอกไม้แห้งสนิทดีแล้ว ก็สามารถเก็บไว้ใช้งานเหมือนบุหงารำไปได้เลยค่ะ เพียงแต่หากกลิ่นหอมจางแล้วเราอาจเติมหัวน้ำหอม หรือใช้น้ำปรุงก็ได้ อบร่ำกลิ่นหอมเพิ่มเข้าไปได้ค่ะ

 

 

************

แก้มนวล #เครื่องหอมชาววัง และงานฝีมือ ผลิตด้วยวัตถุดิบคุณภาพดี ฝีมือประณีต เป็นงานทำมือ โปรดสอบถามหรือสั่งจองมาก่อนนะคะ ที่ Line ID : mystica4u


ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้จากหน้าเฟซบุค แก้มนวล https://www.facebook.com/gaemnual 



วันจันทร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2565

 

#บุหงา #บุหงารำไป

 



 ผลิตภัณฑ์ตัวหนึ่งของแก้มนวล คือ #บุหงาพัดโบก เป็นเครื่องหอมสำหรับตั้งบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์

 

ภายในตัวพัดโบก บรรจุดอกไม้แห้งที่อบกลิ่นหอมแล้ว เรียกกันว่า บุหงา หรือบุหงารำไป

 

บุหงารำไป เป็นคำไทยที่รับมาจากชวา

 

บุหงา หมายถึง ดอกไม้ รำไป หมายถึง เบ็ดเตล็ด

 

บุหงารำไป จึงมีความหมายว่า ดอกไม้หลายชนิด

 

(ที่มาข้อมูล : www.phufa.org)

 

ตัวบุหงารำไปที่อบร่ำกลิ่นหอมแล้วนี้ คือการนำดอกไม้หรือใบไม้สดไปทำให้แห้ง แล้วนำมาอบกลิ่นหอมตามต้องการ นำไปบรรจุในภาชนะต่างๆ ใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง แล้วแต่รูปแบบของภาชนะที่บรรจุ

 

อย่างเช่น บุหงาพัดโบก เป็นการนำเครื่องหอมและงานฝีมือจำลองเครื่องสูงมาผสมผสานกัน ทำให้ได้งานประดิษฐ์ที่สวยงามและมีกลิ่นหอม ใช้เป็นของขวัญของชำร่วย และต่อมาแก้มนวลได้นำมาประยุกต์เพิ่มเติมเป็นเครื่องหอมสำหรับตกแต่งแท่นบูชา และถวายสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์

 

บุหงาพัดโบกแก้มนวล

การทำบุหงาในวังนั้น มาจากการนำดอกไม้ที่เหลือจากการร้อยมาลัยและงานดอกไม้สดต่างๆ มาตากแห้ง เป็นการใช้วัตถุดิบให้คุ้มค่า และเป็นการเก็บรักษาความหอมให้ยาวนาน

 

จากนั้นนำดอกไม้แห้งเหล่านั้นมาอบร่ำกลิ่นหอม ก่อนนำมาบรรจุภาชนะรูปทรงต่างๆ เช่น นำใบบางมาเย็บทำพัดโบก ใบบางรูปหัวใจ เป็นต้น

 

บุหงาหัวใจ

ดอกไม้ที่นิยมนำมาทำแห้ง ก็เช่น กุหลาบมอญ มะลิ ใบเตย พิกุล ส่วนใหญ่ก็ใช้เพียงเท่านี้ เพราะดอกไม้ไทยชนิดอื่น นอกจากหายากแล้ว ยังมีขนาดและปริมาณที่ไม่เหมาะกับการทำบุหงา

 

ส่วนดอกไม้ที่นิยมกันว่ามีชื่อมงคลอย่าง บานไม่รู้โรย ดาวเรือง ในการใช้งานจริงกลับไม่มีการนำมาใช้

 

ตอนเรียนวิชาเครื่องหอมไทย ผู้เขียนก็จำมาจากหนังสือว่า ใช้ดอกบานไม่รู้โรย พอพูดขึ้นในระหว่างที่หาดอกไม้ อาจารย์หันมามองหน้า แล้วบอกว่า “ใช้ทำไม มันมีขน คัน”

 

ผู้เขียนจึงได้รู้ว่า บางครั้ง สิ่งที่นิยมกัน สิ่งที่เผยแพร่กัน ก็ไม่สามารถใช้งานได้จริง ต้องมาจากประสบการณ์ตรงจากครูผู้สอนเท่านั้น

 

บุหงารำไปเหล่านี้ นิยมใส่ถุงผ้าโปร่ง ถุงผ้าลูกไม้ หรือไม่ก็ประดิษฐ์ประดอยจากใบบาง เป็นรูปทรงสวยงาม และนิยมใช้ทำเป็นของชำร่วยในโอกาสต่างๆ โดยเฉพาะงานแต่งงาน โดยเฉพาะบุหงาพัดโบก และบุหงารูปหัวใจ

 

ครั้งหนึ่งอาจารย์พิม ผู้สอนวิชาเครื่องหอมไทยของวิทยาลัยในวังหญิง ได้เล่าให้ผู้เขียนฟังว่า

 

มีลูกค้าที่เป็นคู่แต่งงานได้มาว่าจ้างให้อาจารย์ทำของชำร่วยเป็นบุหงาพัดโบก และได้นำดอกไม้แห้งที่ยังไม่ได้อบกลิ่นจากท้องตลาด ซึ่งเราคงเคยเห็นกันแล้ว เป็นใบไม้ ฝัก และผลแห้งของไม้บางชนิด มักย้อมสีมาอย่างสวยงาม มาให้อาจารย์ใช้แทนดอกไม้แห้งที่พวกเราอบกันเอง

 

อาจารย์พิมบอกว่า เขานำมาให้ทำ แล้วอาจารย์ “ทำไม่ได้”

 

ผู้เขียนงง “ทำไมละคะอาจารย์” มือระดับอาจารย์มีหรือจะทำบุหงาไม่ได้

 

อาจารย์พิมทำหน้าซีเรียสตอบว่า “มันใส่ไม่เข้า”

 

ผู้เขียนถึงบางอ้อ แล้วก็นึกขำ อึ่ม! จริงด้วย เพราะบุหงาแห้งในท้องตลาด เขาต้องการรูปทรงของบุหงาที่สวยงาม จึงเป็นใบไม้หรือผลชิ้นใหญ่ และแข็ง

 

การอบควันเทียนบุหงาแห้ง


ขณะที่บุหงาไทย ที่เราได้จากการอบเอง มีความบาง เล็ก และนุ่ม จึงสามารถสอดเข้าในช่องเล็กๆ ของใบบางที่เราเย็บเป็นแบบบุหงาไว้ได้

 

ผู้เขียนเองก็เคยคิดที่จะซื้อบุหงาแห้งแบบยังไม่อบกลิ่นตามท้องตลาดมาใช้งานเหมือนกัน นี่ดีว่า ได้ฟังประสบการณ์ของอาจารย์พิมเสียก่อน ไม่งั้นคงเสียค่าโง่ไปหลายบาท 5555

 

นอกจากบุหงาแบบแห้งแล้ว ยังมีบุหงาแบบสดอีกด้วยนะคะ ไว้คราวหน้าจะมาเล่าให้ฟังค่ะ

 

##########

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้จากหน้าเฟซบุคแฟนเพจ แก้มนวล https://www.facebook.com/gaemnual

ดูข้อมูลเพิ่มเติม บุหงาพัดโบก ที่นี่

สั่งซื้อสั่งทำผลิตภัณฑ์ได้ที่ Line ID : mystica4u

วันอังคารที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

น้ำปรุงแก้มนวล กลิ่นหิมวันต์

สินค้าแก้มนวล ชุด #เครื่องหอมไทย

ขวดสเปรย์ 30 มล 450 บาท ขวดเล็ก 5 มล 85 บาท (ยังไม่รวมค่าจัดส่ง)





น้ำปรุงที่รังสรรค์จากจินตภาพแห่งป่าหิมพานต์ ดินแดนของโลกเหนือมิติที่เชื่อมต่อไปยังแดนสวรรค์


ป่าหิมพานต์ หรือ หิมวันต์ เป็นป่าในวรรณคดีและไตรภูมิพระร่วง ตั้งอยู่บนเชิงเขาพระสุเมรุ เป็นแดนรอยต่อระหว่างโลกทิพย์กับโลกมนุษย์

ธรรมชาติในป่าหิมพานต์ แม้ใกล้เคียงกับมนุษยโลก แต่ก็มีลักษณะที่แปลกแตกต่าง ทั้งพืชพันธุ์และสัตว์นานาชนิด ตลอดจนอมนุษย์ ที่มีวิชาและฤทธิ์แตกต่างกันไป เช่น กินรี กินนร คนธรรพ์ วิทยาธร ครุฑ

น้ำปรุงหิมวันต์ รังสรรค์กลิ่นหอมตามจินตภาพของป่าเหนือมิติแห่งนี้ เป็นกลิ่นหอมที่ผสมผสานระหว่างความสดชื่นของพฤกษา และความหอมหวานของไม้ดอกนานา ให้ความรู้สึกสบายและผ่อนคลาย ราวกับอยู่ในดินแดนอันน่าอภิรมย์


กลิ่นหอมใหม่นี้ แอดมินถวายเทพกินรีแล้วนะคะ ท่านการันตีว่าเป็นกลิ่นหอมแห่งหิมพานต์อันน่ารื่นรมย์อย่างแท้จริง ^^

ตัวอย่างรีวิวจากผู้ใช้งานค่ะ




วันเสาร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ตัวอย่างการจัดแท่นด้วยผลิตภัณฑ์แก้มนวล

#การจัดตกแต่งแท่นบูชา ด้วย #บุหงาพัดโบก #พุ่ม และ #เครื่องแขวน ของแก้มนวล

แอดมินรวบรวมเอาภาพการจัดแท่นบูชาที่ถูกต้อง และการตกแต่งแท่นบูชาด้วยผลิตภัณฑ์ของแก้มนวล ได้แก่ บุหงาพัดโบก พุ่มทองน้อย และเครื่องแขวนลูกปัด มาให้ลูกเพจได้ดูเป็นตัวอย่าง และเป็นแนวทางในการจัดแท่นบูชาให้สวยงาม และมีพลังนะคะ

ตัวอย่างการจัดแท่นแบบพระพุทธรูปองค์เดียว ถวายตกแต่งด้วยบุหงาพัดโบก และพุ่มทองน้อย


ในกรณีที่มีพระหรือเทวรูปประดิษฐานเพียงองค์เดียว เราวางพัดโบกไว้ขนาบเทวรูปได้เลยนะคะ ซึ่งพัดโบกนั้นจัดทำเป็นคู่ และมีหันซ้ายและขวา ลูกเพจเลือกดูว่า จะจัดแบบหันเข้าหาพระ หรือหันออกก็ได้นะคะ แต่แอดมินชอบแบบหันออกมากกว่า

โดยการจัดวางพัดโบก ให้สังเกตริบบิ้นดอกไม้ที่ตกแต่งอยู่ใต้ตัวพัดโบกนะคะ ให้วางด้านที่มีริบบิ้นติดอยู่นี้ออกด้านหน้าค่ะ

ตัวอย่างการจัดแท่นเทวรูปที่มีองค์เดียว นอกจากเครื่องบูชาปกติแล้ว ถวายบุหงาพัดโบก และพุ่มผ้าตาดทองน้อยลายคดกฤชเพิ่มเติม


ในกรณีที่เรามีพระและเทวรูปหลายองค์จัดอยู่บนแท่นเดียวกัน เราสามารถวางพัดโบกตรงตำแหน่งก็ได้นะคะ ที่เห็นว่าจะช่วยเสริมให้เท่นดูสวยงาม สมบูรณ์ แต่ต้องวางเป็นคู่ เช่น อยู่ด้านบน ขนาบองค์พระประธาน หรืออยู่ด้านล่าง ก็ให้จัดเป็นคู่ซ้ายขวา จะหันเข้าหรือออก อย่าลืมสังเกตให้ด้านที่ติดริบบิ้นดอกไม้หันออกด้านหน้าก็พอค่ะ

ตัวอย่างการจัดแท่นแบบพระหลายองค์ ถวายด้วยบุหงาพัดโบก และพุ่มทองน้อย ตำแหน่งที่วาง นิยมวางตรงกลาง จะด้านบนหรือล่าง ดูแล้วแต่ความเหมาะสม


การจัดวางพุ่มก็เช่นกัน เราต้องจัดวางเป็นคู่ ที่อยู่ตรงตำแหน่งไหนก็แท่นก็แล้วแต่ เลือกวางตามความสวยงามและเหมาะสมนะคะ

การตกแต่งด้วยเครื่องแขวนลูกปัด อาจจัดประดับตกแต่งเป็นฉากด้านหลัง แขวนไว้ 2 ข้างแท่น หรือหากเป็นพวงระย้า ก็โยงห้อยจากด้านบนลงมาก็ได้ค่ะ 

ตัวอย่างการจัดแท่นบูชาที่มีพระหลายองค์ ตกแต่งฉากด้านหลังด้วยเครื่องแขวนลูกปัด ประดับแท่นด้วยบุหงาพัดโบก พุ่มผ้าตาดทองน้อย และพุ่มทองน้อยบานไม่รู้โรยย้อมสี รวมทั้งการถวายสุคนธบูชาด้วยกลิ่นหอมสกัดจากธรรมชาติ คือ น้ำกุหลาบออร์แกนิค และน้ำมันหอมระเหย


การถวายบูหงาพัดโบก เป็นการถวายเครื่องหอม เป็นสุคนธบูชา และเป็นสัญลักษณ์มงคล พัดเอาโชคร้ายออกไป โบกโชคลาภเข้ามา และเป็นเครื่องสูง ส่งเสริมด้านวาสนาบารมี

ตัวอย่างการจัดแท่นแบบเทวรูปหลายองค์ ตกแต่งด้วยบุหงาพัดโบกและพุ่มผ้าตาดทองน้อย นอกจากกระถางธูปแล้ว ยังมีเตากำยานอยู่ด้านหน้า เพราะต้องการถวายทั้งการจุดธูปและกำยาน


การถวายพุ่มทองน้อย เป็นงานฝีมืออันประณีตของราชสำนัก ใช้แทนพุ่มดอกไม้สด เป็นเครื่องตกแต่งเพื่อการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วยความประณีต ส่งเสริมด้านฐานะความเป็นอยู่ และวาสนาบารมี

การถวายเครื่องแขวนลูกปัด แต่ละรูปทรงส่งเสริมบารมีด้านต่างๆ กัน เช่นการดักโชคลาภ การเสริมบารมีด้านยศศักดิ์ เป็นต้น ดูเพิ่มเติมได้ที่
http://gaemnualthaifragrance.blogspot.com/2018/03/1.html


>>>ตัวอย่างการจัดแท่นเพิ่มเติม<<<

แท่นบูชาขนาดใหญ่มีพระและเทวรูปหลายองค์ ถวายบุหงาพัดโบก พุ่มทองน้อยทั้ง ๒ แบบ และมาลัยลูกปัด




ตัวอย่างแท่นบูชาของลูกค้า ถวายบุหงาพัดโบก และเครื่องแขวนพวงระย้าลูกปัด

วันเสาร์ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2561

ดินสอพองสะตุ

สินค้าแก้มนวล ชุดเบ็ดเตล็ด

#ดินสอพองสะตุ 100 กรัม 40 บาท (ยังไม่รวมค่าจัดส่ง)




ดินสอพองสะตุแล้ว เนื้อละเอียด มีฤทธิ์เย็น กระชับรูขุมขน เป็นไอเท็มพื้นฐานสำหรับการทำผิวสวยแบบไทยๆ

การสะตุ คือ การทำให้ตัวยามีฤทธิ์อ่อนลง หรือ ทำให้พิษของตัวยาน้อยลง หรือทำให้ตัวยานั้นสะอาดขึ้น ปราศจากเชื้อโรค

ส่วนใหญ่ใช้ความร้อนในการสะตุ ดินสอพองที่สะตุแล้ว จะมีเนื้อเนียนละเอียด และผ่านการฆ่าเชื้อ สะอาดปลอดภัย

ประโยชน์ของดินสอพอง

ดินสอพองมีฤทธิ์เย็น ใช้พอกเพื่อดูดพิษ เช่น พิษแมลงสัตว์กัดต่อย พอกแก้ปวด บวม ฟกช้ำ แก้ผดผื่น เป็นยาห้ามเหงื่อ ดูดน้ำเหลืองเสียได้ดี

ดินสอพองใช้ทำอะไรได้บ้าง วิธีใช้แบบง่ายๆ ทั่วไป

1 ใช้ผงดินสอพองสะตุ ผสมกับน้ำสะอาดให้พอเหลว ทาบนหน้า คอ และตามตัว ช่วยให้หายคัน แก้ผดผื่น
สมัยเด็กๆ ที่บ้านต้องมีดินสอพองสะตุเก็บไว้ หน้าร้อนผดผื่นมา อาบน้ำเสร็จโดนจับปะแป้งดินสอพอง แป๊บๆ หายคันแล้ว สบายตัว

2 ผสมดินสอพองสะตุกับน้ำอบแก้มนวล ให้พอเหลว ทาบนหน้า และตามตัว ช่วยให้หายคัน เย็นสบาย และมีกลิ่นหอมชื่นใจ ดับร้อน แก้ผดผื่น

3 ใช้แก้หัวโน ฟกช้ำ ผสมดินสอพองกับน้ำมะนาว ทาบริเวณหัวโน ฟกช้ำ บวม จะช่วยให้อาการดีขึ้น

4 พอกหน้า ผิวจะเนียน สดใส เปล่งปลั่งขึ้นทันตา ผสมดินสอพองกับน้ำมะนาวให้พอเหลว ทาพอกหน้าให้ทั่ว เว้นรอบดวงตา และรอบปาก รอจนดินสอพองแห้งล้างออกด้วยน้ำสะอาด ซับหน้าให้แห้ง ผิวจะเนียน กระชับขึ้น ให้ทำอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง

5 ใช้แต้มสิว ผสมดินสอพองกับน้ำมะนาวให้พอเหลว พอกหรือแต้มบริเวณที่เป็นสิว พอดินสอพองแห้งก็ล้างออกด้วยน้ำเปล่า จะช่วยทำให้ลดการอักเสบ สิวแห้งไว ให้แต้มทุกคืนจนสิวแห้ง

6 แก้พิษแสบร้อนจากพริก ดินสอพองผสมน้ำทาบริเวณที่แสบร้อน จะช่วยให้ดีขึ้นได้


สูตรดินสอพองกับสมุนไพรอื่นๆ

1 ผสมดินสอพองกับผงถ่านไม้ไผ่ และน้ำ ทาพอกเพื่อดูดถอนพิษ หรือใช้แปรงฟัน ช่วยให้ฟันขาวสะอาด ซับพิษในช่องปาก

2 ผสมดินสอพองกับน้ำขมิ้น หรือผงขมิ้น ทาแผลพุพอง แผลน้ำเหลืองเสีย ลมพิษ ผื่นคัน

3 ผสมดินสอพองกับน้ำมันมะพร้าว นำดินสอพองมาผสมกับน้ำมันมะพร้าวให้ข้น แล้วพอกหน้าไว้ประมาณ 20 นาที จะช่วยกระชับรูขุมขนและทำให้ผิวหน้าเต่งตึง เนียนสวย และหลังจากใช้ดินสอพองพอกหน้าแล้ว ก็สามารถนำน้ำมันมะพร้าวมาทาผิวได้อีก เพื่อบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น

4 ผสมกับสมุนไพรฤทธิ์เย็น เช่น กากใบย่านางที่เราคั้นเอาน้ำออกแล้ว นำมาผสมกับดินสอพอง ใช้พอกหน้า ช่วยดับพิษร้อน ช่วยให้หน้าสว่างใส หรือใช้เป็นยารักษาแผลจากเริม งูสวัด ไฟลามทุ่ง

5 สูตรดินสอพองผสมสมุนไพรเพื่อดูดสารพิษและหินปูนส่วนเกินของ อ.สุทธิวัสส์ คำภา
 จากหนังสือ กินเป็น ลืมป่วย เรียบเรียงโดย นิพนธ์ วีระธรรมานนท์

ดินสอพอง ครึ่งกิโลกรัม
ขมิ้นชันผง 1 ช้อนชา
ไพลผง 2 ช้อนชา
ทานาคา 3 ช้อนชา

ผสมให้เข้ากัน เก็บใส่ขวดหรือกระปุก ตักแบ่งมาใช้ โดยตักมาตามต้องการผสมน้ำแล้วทาพอกหน้า แขนขา หรือตามบริเวณที่ต้องการ สามารถผสม นม โยเกิร์ต น้ำผึ้ง หรือน้ำมะนาวเพิ่มได้ตามชอบ

ประโยชน์
-ดึงสารพิษออกจากผิวหนัง ดูดหินปูนและสารพิษออกทางรูขุมขน
-เป็นการแลกเปลี่ยนทางธรรมชาติ ของเซลล์ผิว เมื่อคายสิ่งที่ไม่ดีออกไป ก็ดูดสิ่งที่ดีเข้ามา เป็นการให้อาหารทางผิวโดยไม่มีสารเคมี

วันอาทิตย์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2561

วิธีสรงน้ำพระในบ้านเนื่องในวันสงกรานต์

       ช่วงวันสงกรานต์ เป็นธรรมเนียมที่เราชาวไทย จะอัญเชิญพระและเทวรูปในบ้านมาทำความสะอาด และถวายน้ำสรง ทำความสะอาดแท่นบูชา เพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคล





        สำหรับคนรุ่นเก่า หรืออยู่ในครอบครัวที่ปู่ย่าตายายปฏิบัติเช่นนี้เป็นประจำ เคยเห็นเคยมีประสบการณ์ก็จะรู้ขั้นตอนในการสรงน้ำพระ

        ส่วนคนรุ่นใหม่ ที่ไม่เคยทำมาก่อน ย่อมเกิดความขรุขระ ไม่แน่ใจ บ้างก็สับสน ว่าทำอย่างไรจึงถูกต้องและเป็นสิริมงคลอย่างแท้จริง

        แก้มนวลแนะนำวิธีการสรงน้ำพระ แบบไม่ยุ่งยาก เรียบง่าย และเป็นมงคลดังนี้ค่ะ

สิ่งที่ต้องเตรียม
1 น้ำสะอาด
2 น้ำอบหรือน้ำปรุงแก้มนวล
3 ขันหรือภาชนะผสมน้ำสรง (ของใหม่ หรือที่เตรียมไว้สรงน้ำโดยเฉพาะ)
4 จอกน้ำหรือขันน้ำเล็กไว้ตักน้ำ (ของใหม่ หรือที่เตรียมไว้สรงน้ำโดยเฉพาะ)
5 ถาดรองน้ำสรง (ของใหม่ หรือที่เตรียมไว้สรงน้ำโดยเฉพาะ)
6 ผ้าสะอาดสำหรับเช็ดพระ (ของใหม่ หรือที่เตรียมไว้สรงน้ำโดยเฉพาะ)
7 โต๊ะสำหรับวางพระไว้ชั่วคราว
8 ภาชนะรองรับน้ำที่สรงแล้ว


น้ำอบและน้ำปรุงแก้มนวล

ขั้นตอน
1 บอกกล่าวพระและเทวรูปที่เราต้องการทำความสะอาดและสรงน้ำ โดยยกมือไหว้ แล้วบอกท่านดังนี้
“ข้าฯ แต่องค์พระ (ชื่อพระ หากไม่มีก็ใช้คำว่า พระพุทธรูป) พระ...(เอ่ยชือพระทุกองค์ที่อยู่บนแท่น) เนื่องในโอกาสดิถีวันสงกรานต์ ข้าพเจ้าขออนุญาตในการอัญเชิญพระพุทธรูป (และเทวรูป)ของทุกพระองค์บนแท่นบูชานี้ มาทำความสะอาดและสรงน้ำ ขอได้โปรดทรงอนุญาตและประทานสิริมงคลในการณ์นี้ด้วยเทอญ”




2 จากนั้นยกพระและเทวรูปออกจากแท่นหรือโต๊ะหมู่ มาวางบนโต๊ะอื่นชั่วคราว แล้วเช็ดทำความสะอาดแท่นบูชา ตลอดจนเครื่องบูชาทั้งหมด ยกเว้นกระถางธูปให้เช็ดแต่ภายนอก ตักผงธูปที่ล้นเกินออกบ้าง แต่ห้ามเทเถ้าและทรายในกระถางออกมาทั้งหมด

3 ผสมน้ำสะอาดลงในภาชนะ กะปริมาณให้พอกับจำนวนพระที่มี ถ้าไม่พอค่อยผสมใหม่ก็ได้ เทน้ำอบแก้มนวล หรือน้ำปรุงแก้มนวลลงไปให้พอน้ำมีกลิ่นหอม คนให้เข้ากัน

4 เชิญพระประธานมาวางบนถาดรองน้ำสรง ตักน้ำสรงรดลงบนองค์พระให้ทั่ว โดยการรดแต่ละจอกให้สวดคาถาสั้นประจำองค์พระ

เช่น พระพุทธรูป สวด นโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
พระคเณศ สวด โอม ศรี คเณศายะ นะมะ

จำนวนขันหรือจอกที่รด ขึ้นอยู่กับขนาดพระและเทวรูป นับเป็นจำนวนคี่ ได้แก่
พระหน้าตัก 7 นิ้ว ใช้ 7 จอก
พระหน้าตัก 5 นิ้ว ใช้ 5 จอก
พระหน้าตัก 3 นิ้วใช้ 3 จอก
เล็กกว่านี้ใช้จอกเดียว

5 แล้วยกพระขึ้นจากถาด ใช้ผ้าเช็ด ซับให้แห้ง แล้วอัญเชิญกลับไปไว้ที่เดิม หรือจะวางไว้บนโต๊ะอื่นชั่วคราว สรงน้ำเสร็จทั้งหมดค่อยอัญเชิญกลับก็ได้

6 ลำดับการอัญเชิญพระมาสรงน้ำ ให้เชิญองค์ประธานมาก่อน แล้วลดหลั่นตามลำดับศักดิ์และขนาดพระและเทวรูป (หากจัดแท่นอย่างถูกต้อง ก็อัญเชิญมาตามลำดับได้เลย)

แต่ถ้าไม่ได้จัดแท่นตามหลักเทวศาสตร์ไว้ ให้เชิญ พระพุทธรูปมาก่อน ตามด้วยพระโพธิสัตว์ เมื่อเสร็จจากชุดนี้แล้ว ให้เทน้ำที่อยู่ในถาดสรงออกไป (ใส่ในภาชนะอื่น)

จากนั้น เป็นเทพฝ่ายต่างๆ เช่น หากมีเทพอินเดีย ก็เชิญเทวรูปสายอินเดียมาสรงน้ำทีละองค์ โดยเชิญองค์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดมาสรงก่อน แล้วเทน้ำในถาดสรงออกไป

แล้วจึงเชิญเทพสายอื่นๆ มาสรงน้ำเป็นชุดๆ

ลำดับพระตามสายวิชาที่อัญเชิญมาสรง สำหรับผู้ที่บูชาพระหลายสาย
1 พระพุทธรูป และพระโพธิสัตว์ (ถ้ามีทั้งพระโพธิสัตว์ชายและหญิง ให้สรงน้ำฝ่ายชายก่อน แล้วปิดท้ายด้วยฝ่ายหญิง)
2 เทพสายอินเดีย
3 เทพสายจีน
4 รูปปั้นพระเกจิ พระสงฆ์
5 เทพฝ่ายไทย หากมีทั้งชายและหญิง ให้สรงน้ำฝ่ายชายก่อน แล้วปิดท้ายด้วยฝ่ายหญิง
6 เทพพื้นเมือง เช่น เจ้าพ่อ เจ้าแม่ อดีตกษัตริย์

        หากพระหรือเทวรูป มีคราบฝุ่นเกาะมาก ควรอัญเชิญไปทำความสะอาดก่อน หากเป็นเนื้อที่ทนน้ำให้ล้างด้วยน้ำสบู่หรือน้ำยาล้างจาน (ใหม่ๆ) เปิดน้ำจากก๊อกรดไล่ฝุ่นออกให้หมด ใช้มือหรือผ้าใหม่เช็ดถูให้สะอาด แล้วค่อยอัญเชิญมาสรงน้ำที่เราผสมไว้อีกที
       
        เมื่อสรงน้ำพระครบทุกองค์แล้ว อัญเชิญกลับที่ จัดแท่นบูชาให้เรียบร้อย ถวายดอกไม้สด แล้วจุดธูปเทียนบูชาแบบปกติ จะถวายเครื่องหอมเพิ่มเติมในตอนบูชาก็ได้นะคะ เช่น น้ำกุหลาบ น้ำปรุง หรือน้ำอบ ก็ได้ อธิษฐานขอพรเนื่องในโอกาสวันสงกรานต์ต่อไป

        ส่วนน้ำที่สรงเสร็จแล้ว ที่แอดมินให้เทเก็บไว้ ถือว่าเป็นของมีสิริมงคล ให้นำมาปะพรมผู้บูชาและคนในบ้าน ที่เหลือให้เทตรงหน้าบ้าน หากเป็นห้องคอนโด ให้เทที่ระเบียงห้อง 

        เป็นอันเสร็จพิธีสรงน้ำพระช่วงสงกรานต์แบบเรียบง่าย แอดมินขอให้ทุกท่านได้รับพรอันเป็นมงคลในพิธีสรงน้ำพระวันสงกรานต์ถ้วนทั่วทุกคนเทอญ

*หมายเหตุ น้ำอบแก้มนวล ทำสดใหม่ทุกปีก่อนเดือนเมษายน สอบถามกันเข้ามาได้นะคะ
         
ดูรายการสินค้าและราคาแก้มนวลได้ ที่นี่ (รอลิงค์)

สอบถามสั่งซื้อได้ทางไลน์ : mystica4u  email: gaemnual@hotmail.co.th

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้จากหน้าเพจแก้มนวลค่ะ